รายละเอียด
ดาวน์โหลด Docx
อ่านเพิ่มเติม
เหตุใดวิธีการนี้ จึงไม่ได้รับการกล่าวถึง ในพระคัมภีร์ไบเบิล ช่วงถามตอบ หน้า 58-59"ถาม: การทำสมาธิเกิดขึ้นกับคุณ โดยธรรมชาติหรือเปล่า หรือต้องใช้เวลาฝึกฝน เป็นเวลานาน ก่อนจะเริ่มทำสมาธิได้?""เอ็ม: มันเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ และยังต้องอาศัยการฝึกฝนด้วย มันไม่ได้เกิดขึ้นเองทันทีในตอนนี้ เพราะคุณไม่รู้วิธี หลังจากที่เราแสดงให้คุณดู มันจะมาเองโดยอัตโนมัติ แต่ก็ต้องใช้การฝึกฝน ไม่ใช่ว่าต้องฝึกฝน เพื่อที่จะนั่งสมาธิ เพียงแค่คุณต้องทำให้ตัวเองเงียบ เพื่อที่จะได้ยินพระเจ้า และนั่นคือ สิ่งที่เราเรียกว่าการทำสมาธิ เพราะส่วนใหญ่ เรามักจะยุ่งอยู่เสมอ [...] แล้วเราก็ไม่มีเวลา สำหรับพระเจ้า ดังนั้นเราต้องฝึกตัวเองให้เงียบ สักช่วงหนึ่งของวัน แล้วเราจะสามารถติดต่อพระเจ้าได้ เราได้ยินสิ่งที่พระองค์ ต้องการจะบอกเรา แต่นั้นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น หลังจากนั้น มันก็มาโดยธรรมชาติ”เงื่อนไขเดียวสำหรับ การทำสมาธิ: วิถีมังสวิรัติ (วิถีวีแกน) ช่วงคำถามและคำตอบ หน้า 60-62ถาม: ท่านพูดถึงเงื่อนไขเดียว สำหรับการทำสมาธิ คือการไม่กินเนื้อสัตว์ และการเป็นมังสวิรัติ (วีแกน) คำถามของฉันคือ บุหรี่กับแอลกอฮอล์ รวมกับการทำสมาธิได้หรือไม่เอ็ม: “[...]เนื้อสัตว์ แอลกอฮอล์ บุหรี่ ยาเสพติด และอื่น ๆ ทำให้เราก้าวร้าว มากขึ้น กระสับกระส่ายมากขึ้น หงุดหงิดมากขึ้น และเราไม่สามารถสงบลงได้ เมื่อเราไม่สามารถ สงบสติอารมณ์ลงได้ เป็นเรื่องยาก ที่จะได้รับข่าวสารจากพระเจ้า นั่นก็คือทั้งหมด [...] พลังงานจาก (ชาว) สัตว์นั้น กระสับกระส่ายและเต็มไปด้วย ความกลัวและความเกลียดชัง ดังนั้นหากเรากินเนื้อสัตว์ มันจะรบกวนสนามแม่เหล็กของเรา และทำให้เรารู้สึกกระสับกระส่าย และบางครั้งทำให้เรามองเห็นไม่ชัด จนเราไม่สามารถมองเห็นพระเจ้า เราไม่สามารถได้ยินพระองค์ชัดเจน[...] แต่หากเราต้องการที่จะไป ให้สูงขึ้นและสูงขึ้น ไปสู่ความถี่ การสั่นสะเทือนที่ละเอียดขึ้น และละเอียดที่สุด เราไม่สามารถเอา สสารหยาบ ๆ ทั้งหมดนี้ติดตัวไปด้วย โดยเฉพาะพลังงานของ (ชาว) สัตว์ พลังงานวีแกน นั้นเบากว่า และจัดการง่ายกว่า"ถาม: ฉันจะเห็นพระเจ้าได้อย่างไร และหนทางจิตวิญญาณเป็นอย่างไร? จากนี้ ฉันจะเห็นได้ชัดเจนขึ้นไหม? เวลาที่เหมาะสมในการทำสมาธิ คือเมื่อไร? และฉันจะต้องทำอย่างไร เพื่อรู้จักพระเจ้าอย่างแท้จริง? เมื่อใดพระองค์จะปรากฏตลอดเวลา? พระองค์ทรงส่องสว่างแก่ฉัน ในทุกทางและทั้งครอบครัวของฉัน ทั้งใกล้และไกลใช่หรือไม่?เอ็ม: "รวมถึงสุนัขและแมวด้วย? [...] ใช่แล้ว พระเจ้าอยู่ทุกหนทุกแห่ง แน่นอนว่ามันขึ้นอยู่ว่า เราสามารถสงบจิตใจ ได้เงียบแค่ไหน เราสามารถเงียบได้แค่ไหน เราจริงใจแค่ไหน และเราต้องการ รู้จักพระองค์มากแค่ไหน พระองค์จะทรงปรากฏพระองค์ เมื่อใดก็ตามที่เหมาะสมสำหรับคุณ [...] มันเป็นพระพรมหาศาล สำหรับทุกคน ไม่เว้นแม้แต่แมวและสุนัขของคุณ ฉันไม่ได้ล้อเล่น! เพื่อนของคุณ คนรักของคุณ หรือใครก็ตาม ที่คุณคิดถึงหรือห่วงใย พระพรจะหลั่งไหลผ่านตัวคุณ ไปถึงคน ๆ นั้น เมื่อคุณได้รับแสงสว่าง ดังนั้นหากคุณรักครอบครัวของคุณ อย่างมาก และรวมทุกคนเข้าไปด้วย จงรีบทำบางสิ่งทันที มารู้จักพระเจ้า!”นักบุญ ต้องก้าวให้ทันยุคสมัย! ช่วงคำถามและคำตอบ หน้า 63-65ถาม: แรงบันดาลใจในการทำสมาธิ คืออะไร? เพื่อพบพระเจ้าและรู้ว่าจะมีพระองค์ อย่างแท้จริงและจะสัมผัสถึงพระองค์ ในใจเราได้อย่างไร?เอ็ม: "แน่นอน การรู้จักกับพระเจ้า และมีความอิ่มเอม ในใจเรา นั่นคือจุดมุ่งหมายของเรา และคุณก็จะได้ สมปรารถนาตามหัวใจของคุณ ฉันสัญญา เพราะฉันเคยประสบกับมันด้วยตัวเอง ไม่มีอะไรดีไปกว่านี้อีกแล้ว ในพระคัมภีร์ไบเบิลกล่าวว่า คนที่ได้สิ่งของทั้งโลกมา แต่สูญเสียจิตวิญญาณของตนเองไป จะมีประโยชน์อะไร? ฉันสามารถยืนยันเรื่องนั้นได้ ฉันสูญเสียทั้งโลก ดีกว่าสูญเสีย พระเจ้า แต่นั่นก็คือฉัน [...] คุณยังสามารถ มีทั้งโลกนี้ แต่ก็มีพระเจ้าในเวลาเดียวกัน และนั่นคือสิ่งที่ควรเป็น ตอนนี้เรามีเพียงโลก แต่เราไม่มีพระเจ้า นั่นน่าเสียดาย เพราะเราสามารถมีทั้งสองอย่างได้[...] แต่เมื่อเรามีพระเจ้าแล้ว เราก็มีทุกสิ่งทุกอย่าง จงแสวงหาอาณาจักร ของพระเจ้าก่อน แล้วสิ่งอื่น ๆ จะมาหาคุณเอง นั่นคือคำสัญญาที่พระเจ้าประทานให้ กับเรา ตั้งแต่ก่อนที่เราเกิดด้วยซ้ำ แต่เรากลับลืมมันไป และนั่นเป็นเรื่องน่าเสียดายสำหรับเรา เราควรเรียกร้องสิทธิของเราคืน เรียกร้องความรุ่งโรจน์ของเราคืน เรียกร้องทุกสิ่งที่เรามีคืน เพราะเรา เป็นเจ้าของจักรวาลทั้งหมด เป็นนักบุญ และเพลิดเพลิน ไปกับโลกไปพร้อม ๆ กัน เป็นนักบุญที่สวยและร่ำรวยตอนที่ฉันเริ่มมีความรู้แจ้งบ้างแล้ว ฉันก็เดินตามรอยนักบุญ ในสมัยโบราณหลายท่าน ฉันสละทุกสิ่งทุกอย่าง ฉันไม่สนใจอะไรเลย ฉันไม่ต้องการอะไรเลย เพราะมันไม่ดึงดูดฉันอีกต่อไป แต่แล้วพระเจ้าตรัสกับฉันว่า “ท่านต้องมีทุกสิ่ง ฉันจะให้ทุกสิ่งทุกอย่าง แก่ท่าน มากกว่าที่ท่านต้องการ มากกว่าที่ท่านจำเป็น ท่านจะต้องแสดงให้โลกรู้ว่า ฉันคือพระบิดาและฉันสามารถให้ สิ่งใดก็ได้แก่ท่าน รวมถึงการตื่นรู้ทางจิตวิญญาณด้วย ท่านไม่จำเป็นต้องละทิ้งสิ่งใด ๆ เพื่อที่จะรักฉัน เพราะฉันรักท่าน ไม่ว่าท่านจะเป็นอะไรก็ตาม" พระองค์บอกฉันว่าฉันต้องทำสิ่งนี้ ฉันจะต้องทำมันด้วยวิธีอันรุ่งโรจน์ ฉันบอกว่า “ตกลง พระบิดา อะไรก็ได้ที่พระองค์ต้องการ” ฉันอยากจะง่ายกว่านี้ มันเป็นงานน้อยลง แต่พระองค์ชอบแบบนี้ ดี! นอกจากนี้ คุณชอบฉันสวย ๆ ไม่ใช่หรือ มันดูสบายตามากกว่าฉันทูลพระองค์ว่า “แต่พระบิดา นักบุญในสมัยโบราณ เช่น พระพุทธเจ้า และพระเยซู ล้วนเดินเท้าเปล่า พวกท่านสวมเสื้อผ้าเรียบง่าย และออกไปขออาหาร ทำไมพระองค์ถึงต้องการให้ฉัน มีสิ่งเหล่านี้? มันจะได้ผลหรือ?” เพราะคนส่วนใหญ่ในโลกนี้ คาดหวัง หรือเคยชิน กับนักบุญ ที่สละทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่มีอะไรเลย ดูยากจน และเดินเท้าเปล่า พระองค์ตรัสว่า “ไม่ ไม่! มันเป็นช่วงเวลาที่แตกต่างกัน! จงทันสมัย! ท่านจะต้องทันเหตุการณ์ ให้ทันยุคสมัย” ดังนั้น ฉันจึงมีทุกสิ่งทุกอย่าง ที่ฉันไม่สนใจเลยด้วยซ้ำ”“การติดต่อกับพระเจ้าโดยตรง หนทางสู่สันติสุข” ดาวน์โหลดฟรีได้ที่ SMCHBooks.com และได้รับการตีพิมพ์เป็นภาษา อังกฤษและเอาหลัก (เวียดนาม)
