รายละเอียด
ดาวน์โหลด Docx
อ่านเพิ่มเติม
ในพระสูตร พระศากยมุนีพุทธเจ้า ทรงบรรยายถึงสิบหกขั้นตอน ของการเพ่งพิจารณา หรือการฝึกจินตภาพจิต ที่จะต้องปฏิบัติ ตามตามลำดับ ด้วยการเพ่งพิจารณาอย่างลึกซึ้ง เกี่ยวกับแง่มุมต่าง ๆ ของดินแดนบริสุทธิ์ และการมองเห็นรายละเอียดเหล่านั้น ผู้ปรารถนาจะสามารถเข้าใกล้ ดินแดนบริสุทธิ์ได้มากขึ้น วันนี้เป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่จะได้แบ่งปัน จาก "พระสูตรว่าด้วยการเพ่งพิจารณา ของพระอมิตายุส" ซึ่งแปลเป็นภาษาอังกฤษ โดย เจ. ทาคาคุสึ ในหนังสือ “พระสูตรพุทธมหายาน" อธิบายคุณลักษณะ แห่งการเกิดสามขั้นอันสูงสุด ในแดนบริสุทธิ์ การเพ่งพิจารณาถึงการเกิด ในชั้นสูงสุดสามขั้น (ในแดนบริสุทธิ์) “พระพุทธเจ้าได้ตรัส กับอานนท์และไวเทหะว่า: ‘สัตว์ทั้งหลาย ที่จะไปเกิดในภพภูมิ ที่สูงสุด (คือ พุทธภาวะ) ได้แก่ บุคคลใดก็ตามที่ต้องการ เกิดในภพภูมินั้น และปรารถนาที่จะเจริญ จิตตภาวนาสามประการ ซึ่งจะได้ไปเกิด ในภพภูมินั้นทันที คุณอาจถามว่า ความคิดสามประการคืออะไร ประการแรก ความคิดที่แท้จริง ประการที่สอง ความคิดแห่งศรัทธาอันล้ำลึก ประการที่สาม ความปรารถนา ที่จะไปเกิดในแดนบริสุทธิ์นั้น โดยนำเอาคุณความดีที่ตนมีอยู่ ไปให้เต็มที่ ผู้ใดมีใจสามประการนี้ ครบถ้วน สมบูรณ์แล้ว จะไปเกิดในแผ่นดินนั้น อย่างแน่นอน ยังมีบุคคลสามประเภท ที่สามารถไปเกิด ในประเทศนั้นได้ คุณอาจถามว่า บุคคลทั้งสามประเภทมีอะไรบ้าง ประการแรก คือ ผู้ที่มีจิตใจกรุณา ไม่ทำอันตรายแก่สัตว์ใด ๆ และทำความดี ตามพระธรรมคำสอน ของพระพุทธเจ้าทุกประการ ประการที่สอง ผู้ที่ศึกษา และท่องพระสูตรมหายาน เช่น พระสูตรไวปุลยะ ประการที่สาม คือ ผู้ปฏิบัติธรรม เพื่อการระลึกหกประการ บุคคลทั้งสาม ประเภทเหล่านี้ ประสงค์จะเกิด ในดินแดนนั้น โดยนำส่วนบุญของตนไปให้ครบ หากกระทำ ความดี ข้อใดข้อหนึ่งเหล่านี้ครบ หนึ่งวัน หรือแม้สองวัน ก็ได้ไป เกิดในดินแดนนั้น เมื่อบุคคลใด ที่บำเพ็ญธรรม (เหล่านี้) ไว้แล้ว จะไปเกิดในประเทศนั้น พระอมิตาภพุทธเจ้า พร้อมด้วยสองพระองค์ พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ และพระมหาสถามะโพธิสัตว์ และพระพุทธเจ้า ที่ได้จุติขึ้นนับไม่ถ้วน และพระภิกษุและสาวะกะ จำนวนแสนองค์ พร้อมด้วยบริวารทั้งหมด และเทวดานับไม่ถ้วน พร้อมปราสาท อัญมณีทั้งเจ็ด จะมาปรากฏแก่บุคคลนั้น ด้วยความเคารพในความอุตสาหะ และความกล้าหาญของเขา พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ พร้อมด้วย พระมหาสถามะโพธิสัตว์ จะทรงมอบที่นั่งเพชรแด่เขา เมื่อนั้น พระอมิตายุสเอง จะทรงส่งรัศมีแห่งแสงสว่าง อันมหัศจรรย์มาส่อง แก่ร่างของผู้ที่กำลังจะตาย พระองค์และพระโพธิสัตว์มากมาย จะยื่นมือออกไป และต้อนรับเขา เมื่อพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ และพระมหาสถามะโพธิสัตว์ และพระโพธิสัตว์อื่น ๆ ทั้งหมด จะสรรเสริญเกียรติของบุคคล ผู้ที่บำเพ็ญ ความดีที่เป็นบุญกุศล และให้ข้อคิดเตือนใจ แก่จิตใจของเขา เมื่อผู้มาใหม่เห็นสิ่งเหล่านี้ แล้วมีความยินดี และโลดเต้นด้วยความยินดี ดูที่ตนเอง เขาจะพบร่างของตนนั่งอยู่ บนบัลลังก์เพชรนั้น และเมื่อเขาติดตาม พระพุทธเจ้า เขาก็จะไปเกิด ในดินแดนนั้นทันที เมื่อเขาได้ไปเกิดที่นั่นแล้ว เขาจะได้เห็นพระวรกายของ พระพุทธเจ้า พร้อมด้วยเครื่องหมาย แห่งความสมบูรณ์แบบครบถ้วน และ รูปและสัญลักษณ์อันสมบูรณ์แบบ ของพระโพธิสัตว์ทั้งหลายด้วย เขาจะเห็นรัศมีอันเจิดจ้า และป่าอัญมณี และได้ยิน เทศนาธรรมอันยอดเยี่ยม และตระหนักทันที ถึงจิตวิญญาณแห่งการยอมจำนน ต่อผลใด ๆ ก็ตาม ที่อาจเกิดขึ้นในภายหลัง อีกไม่นานเขาจะ รับใช้พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ที่ประทับอยู่ใน แคว้นทั้งสิบแห่งนี้ เมื่อพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ ปรากฏพระวรกาย เขาจะได้รับคำทำนายชะตาชีวิตตน ในอนาคตได้ตามลำดับ เมื่อเขากลับถึงดินแดนของตน (สุขาวดี ซึ่งเขาเพิ่งจุติ) เขาจะได้รับ สูตรธารณี (คำอธิษฐานลึกลับ) มากมายนับไม่ถ้วน เช่นนี้คือ ผู้ที่จะเกิดมา ในสภาพอันสูงสุด (สู่พระพุทธภาวะ) ต่อไป ผู้ที่จะเกิด ในภพชาติกลางของชั้นสูงสุด คือผู้ที่ ไม่จำเป็นต้องเรียนรู้ จดจำ ศึกษา หรือท่อง พระสูตรไวปุลยะเหล่านั้น แต่เข้าใจ ความหมายของสัจธรรม (ที่มีอยู่ในพระสูตร เหล่านั้น) เป็นอย่างดี และเมื่อเข้าใจ สัจธรรมสูงสุด อย่างมั่นคงแล้ว ก็ไม่ได้พูดจาไม่ดี เกี่ยวกับคำสอนมหายาน แต่มีความเชื่ออย่างลึกซึ้ง ใน (หลักเหตุและผล) ผู้ที่นำคุณสมบัติที่ดีเหล่านี้ สู่ความสมบูรณ์แห่งวัย และปรารถนาที่จะไปเกิด ในแผ่นดินที่มีความสุขสูงสุด เมื่อบุคคลใด ได้คุณสมบัติเหล่านี้แล้วใกล้จะตาย พระอมิตายุสจะล้อมรอบด้วย พระโพธิสัตว์สองพระองค์ พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ และพระมหาสถามะโพธิสัตว์ และบริวารอีกมากมาย จะนำอาสนะที่ทำด้วยสีม่วงทอง มาให้เขา พร้อมกับกล่าวสรรเสริญว่า: "โอ บุตรชายของข้า ในธรรมบัญญัติ! เจ้าได้ปฏิบัติตาม คำสอนมหายานแล้ว เจ้าได้เข้าใจ และเชื่อในความจริงอันสูงสุดแล้ว ดังนั้นฉันจึงมาพบ และต้อนรับเจ้าในขณะนี้” พระองค์และพระพุทธเจ้านับพันองค์ ต่างยื่นมือพร้อมกัน เมื่อชายคนนั้นมองดู ร่างกายของตนเอง เขาจะพบว่าตนเองนั่งอยู่บน ที่นั่งสีม่วงทองนั้น แล้วเขาจะ กางมือที่พนมออก สรรเสริญและเชิดชู พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ทันใดนั้น เขาก็จะไปเกิดในทะเลสาบ แห่งอัญมณีเจ็ดประการ แห่งประเทศนั้น ที่นั่งสีม่วงทองที่เขานั่งอยู่นั้น เปรียบเสมือนดอกไม้ อัญมณีอันงดงาม และจะเปิดออก หลังจากผ่านไปหนึ่งคืน ร่างของผู้มาใหม่ จะมีสีม่วงทอง และใต้เท้าของเขา จะมีดอกบัว ที่มีอัญมณีเจ็ดประการด้วย พระพุทธเจ้า และพระโพธิสัตว์ จะส่งรัศมีอันเจิดจ้า สาดส่องลงมายังร่างกาย ของบุคคลนั้น ทำให้ดวงตาของเขาลืมกว้าง และแจ่มใสขึ้นทันที ตามวิถีเดิมของเขา (ในโลกมนุษย์) เขาจะได้ยินเสียงทั้งหลาย ที่อยู่ที่นั่น การแสดงธรรมเบื้องต้น ที่มีนัยสำคัญที่ลึกซึ้งที่สุด จากนั้น เขาจะลงจากที่นั่ง ทองคำนั้นไปบูชา พระพุทธเจ้าโดยพนมมือ สรรเสริญ พระผู้มีพระภาคเจ้า เมื่อล่วงไปแล้วเจ็ดวัน เขาจะบรรลุ ภาวะแห่งความรู้ อันสมบูรณ์สูงสุด (อนุตตรสัมมาสัมโพธิ) ทันที และจะไม่เสื่อมถอย (อไววารตยะ) เลย ต่อไปเขาจะบินไปครบทั้งสิบแคว้น ถวายการปรนนิบัติ พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ในแคว้นนั้นตามลำดับ เขาจะได้บำเพ็ญสมาธิ มากมายหลายครั้ง ต่อหน้าพระพุทธเจ้าเหล่านั้น เมื่อกาลหนึ่งล่วงกัปอันสั้นไปแล้ว เขาจะบรรลุ จิตแห่งการยอมรับผลใด ๆ ก็ตาม ที่อาจเกิดขึ้นในภายหลัง และเขาจะได้รับคำทำนาย ถึงโชคชะตา ในอนาคตของเขาต่อหน้าพระพักตร์ พระพุทธเจ้าทั้งหลายด้วย’”